การส่งและจ่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า
ระบบส่งและจ่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าถือเป็นพื้นฐานสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานทางไฟฟ้าในยุคปัจจุบัน ทำหน้าที่เชื่อมโยงการผลิตไฟฟ้าเข้ากับผู้ใช้งานปลายทาง ระบบขั้นสูงเหล่านี้ประกอบด้วยเครือข่ายสายส่งไฟฟ้าแรงสูง สถานีไฟฟ้าย่อยหม้อแปลง และอุปกรณ์จ่ายไฟ ซึ่งทำงานประสานกันเพื่อส่งจ่ายไฟฟ้าอย่างมีความน่าเชื่อถือในระยะทางที่ไกลมาก หน้าที่หลักคือการเพิ่มแรงดันไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าเพื่อให้ส่งไฟฟ้าระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นจึงค่อยๆ ลดแรงดันลงที่สถานีไฟฟ้าย่อยเพื่อจ่ายไฟฟ้าให้บ้านเรือนและธุรกิจอย่างปลอดภัย ระบบส่งไฟฟ้าสมัยใหม่มักทำงานที่แรงดันตั้งแต่ 69 กิโลโวลต์ ถึง 765 กิโลโวลต์ โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น HVDC (High Voltage Direct Current) เพื่อลดการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าให้น้อยที่สุดในระยะทางไกล สำหรับเครือข่ายระบบจำหน่ายที่ทำงานที่แรงดันต่ำกว่า ระหว่าง 4 กิโลโวลต์ ถึง 33 กิโลโวลต์ ประกอบด้วยทั้งสายไฟฟ้าเหนือดินและสายเคเบิลใต้ดิน พร้อมติดตั้งความสามารถของระบบกริดอัจฉริยะ (Smart Grid) เพื่อการตรวจสอบและควบคุมแบบเรียลไทม์ ระบบเหล่านี้ยังมีกลไกป้องกันขั้นสูง รวมถึงเบรกเกอร์ อุปกรณ์จำกัดแรงดันไฟฟ้ากระชาก และอุปกรณ์ตรวจสอบที่มีความแม่นยำสูง เพื่อให้ระบบมีเสถียรภาพและป้องกันความล้มเหลวที่อาจลุกลาม ทั้งเครือข่ายถูกควบคุมผ่านระบบ SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) ขั้นสูง ซึ่งช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถตรวจสอบและควบคุมการไหลของกระแสไฟฟ้า ระดับแรงดัน และความถี่ของระบบได้อย่างแม่นยำ