การจ่ายและส่งผ่านพลังงานไฟฟ้า
ระบบการจ่ายและส่งผ่านพลังงานไฟฟ้าเป็นรากฐานสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในยุคปัจจุบัน โดยทำหน้าที่เป็นเครือข่ายหลักที่นำกระแสไฟฟ้าจากสถานีผลิตไฟฟ้าไปยังผู้ใช้งานปลายทาง ระบบนี้ซึ่งมีความซับซ้อนประกอบด้วยสายส่งไฟฟ้าแรงดันสูง เครื่องแปลงไฟฟ้า (transformers) สถานีไฟฟ้า และเครือข่ายการจ่ายไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืนเพื่อให้มั่นใจว่าจะส่งพลังงานไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบส่งผ่านไฟฟ้าทำงานที่แรงดันไฟฟ้าสูง (โดยทั่วไปประมาณ 69kV ถึง 765kV) เพื่อลดการสูญเสียพลังงานเมื่อส่งผ่านระยะทางไกล ในขณะที่เครือข่ายการจ่ายไฟฟ้าลดแรงดันเหล่านี้ผ่านเครื่องแปลงไฟฟ้าเพื่อให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในบ้านเรือนและเชิงพาณิชย์ ระบบการจ่ายไฟฟ้าสมัยใหม่รวมเอาเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ระบบ SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) ความสามารถของสมาร์ทกริด และอุปกรณ์เปลี่ยนทางอัตโนมัติ เพื่อรักษาเสถียรภาพและความมีประสิทธิภาพของระบบ นอกจากนี้ยังมีกลไกการป้องกันที่ซับซ้อน เช่น สวิตช์ตัดวงจร (circuit breakers) รีเลย์ และระบบตรวจจับข้อผิดพลาด เพื่อป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์และการเกิดอุบัติเหตุต่อสาธารณะ การผสมผสานแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้นำไปสู่การพัฒนาเครือข่ายการจ่ายไฟฟ้าที่ยืดหยุ่นและปรับตัวได้มากขึ้น สามารถรองรับการไหลของพลังงานสองทิศทางและสภาพโหลดที่แปรผัน นอกจากนี้ระบบสมัยใหม่ยังเน้นเรื่องความน่าเชื่อถือผ่านเส้นทางสำรองและเทคนิคการจัดการโหลดขั้นสูง เพื่อให้มั่นใจว่ากระแสไฟฟ้าจะไม่ขาดแคลนแม้ในกรณีที่ระบบบางส่วนล้มเหลว